Learn English from Bible

Thursday, September 14, 2006

Genesis ปฐมกาล 1:11-19

11 Then God said, "Let the land produce vegetation: seed-bearing plants and trees on the land that bear fruit with seed in it, according to their various kinds." And it was so.
12 The land produced vegetation: plants bearing seed according to their kinds and trees bearing fruit with seed in it according to their kinds. And God saw that it was good.
13 And there was evening, and there was morning—the third day.
14 And God said, "Let there be lights in the expanse of the sky to separate the day from the night, and let them serve as signs to mark seasons and days and years,
15 and let them be lights in the expanse of the sky to give light on the earth." And it was so.
16 God made two great lights—the greater light to govern the day and the lesser light to govern the night. He also made the stars.
17 God set them in the expanse of the sky to give light on the earth,
18 to govern the day and the night, and to separate light from darkness. And God saw that it was good.
19 And there was evening, and there was morning—the fourth day.


11 พระเจ้าตรัสว่า "แผ่นดินจงเกิดพืช คือ ผักหญ้าที่มีเมล็ดและต้นไม้ที่ออกผล มีเมล็ดในผลตามชนิดของมันบนแผ่นดิน" ก็เป็นดังนั้น
12 แผ่นดินก็เกิดพืช คือผักหญ้าที่มีเมล็ดตามชนิดของมัน และต้นไม้ที่ออกผลมีเมล็ดในผลตามชนิดของมัน พระเจ้าทรงเห็นว่าดี
13 มีเวลาเย็นและเวลาเช้า เป็นวันที่สาม
14 พระเจ้าตรัสว่า "จงมีดวงสว่างบนฟ้า เพื่อแยกวันออกจากคืน ให้ดวงสว่างเป็นหมายกำหนดฤดู วัน ปี
15 และให้เป็นดวงสว่างบนฟ้า เพื่อส่องสว่างบนแผ่นดิน" ก็เป็นดังนั้น
16 พระเจ้าได้ทรงสร้างดวงสว่างขนาดใหญ่ไว้สองดวง ให้ดวงใหญ่ครองวัน ดวงเล็กครองคืน พระองค์ทรงสร้างดวงดาวต่างๆด้วย
17 พระเจ้าทรงตั้งดวงสว่างเหล่านี้ไว้บนฟ้า ให้ส่องสว่างบนแผ่นดิน
18 ให้ครองวันและคืน และแยกความสว่างออกจากความมืด พระเจ้าทรงเห็นว่าดี
19 มีเวลาเย็นและเวลาเช้า เป็นวันที่สี่

อย่าลืมนะครับ หาหนังสักเรื่องที่ชอบแล้วดูหลายๆ รอบหน่อย ^_^

Watch a movie again and again...

เทคนิคหนึ่งที่ผมใช้ในการฝึกภาษาอังกฤษ
ได้แก่ การดูหนังเรื่องเดิมซ้ำๆ หลายๆ รอบ
รอบแรก ให้ดูเพื่อเข้าใจเนื้อเรื่องภาพรวมทั้งหมด
รอบสอง ให้พยายามเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
รอบต่อๆไป ให้พยายามเข้าใจและพูดตาม

ให้ดูไปเรื่อยๆ จนสามารถจดจำได้ว่าต่อไปอะไรจะเกิดขึ้น
ตัวละครตัวไหนจะพูดอะไรบ้าง
ถ้าดูจนได้ขนาดนี้ผมเชื่อว่าจะช่วยอย่างมากในการฝึกภาษาอังกฤษ

ขอพระเจ้าอวยพรนะครับ

Genesis 1:6-10 ปฐมกาล 1:6-10

6 And God said, "Let there be an expanse between the waters to separate water from water."
7 So God made the expanse and separated the water under the expanse from the water above it. And it was so.
8 God called the expanse "sky." And there was evening, and there was morning—the second day.
9 And God said, "Let the water under the sky be gathered to one place, and let dry ground appear." And it was so.
10 God called the dry ground "land," and the gathered waters he called "seas." And God saw that it was good.


6 พระเจ้าตรัสว่า "จงมีภาคพื้นในระหว่างน้ำ แยกน้ำออกจากกัน"
7 พระเจ้าทรงสร้างภาคพื้นนั้นขึ้น แล้วทรงแยกน้ำที่อยู่ใต้ภาคพื้นออกจากน้ำที่อยู่เหนือภาคพื้น ก็เป็นดังนั้น
8 พระเจ้าจึงทรงเรียกภาคพื้นนั้นว่า ฟ้า มีเวลาเย็น และเวลาเช้า เป็นวันที่สอง
9 พระเจ้าตรัสว่า "น้ำที่อยู่ใต้ฟ้าจงรวมอยู่แห่งเดียวกันที่แห้งจงปรากฏขึ้น" ก็เป็นดังนั้น
10 พระเจ้าจึงทรงเรียกที่แห้งนั้นว่าแผ่นดิน และที่ซึ่งน้ำรวมกันนั้นว่า ทะเล พระเจ้าทรงเห็นว่าดี

Vocabulary
expanse = ผืนกว้าง ทะเลกว้าง

Genesis 1:1-5 ปฐมกาล 1:1-5

The Beginning
1 In the beginning God created the heavens and the earth.
2 Now the earth was [a] formless and empty, darkness was over the surface of the deep, and the Spirit of God was hovering over the waters.
3 And God said, "Let there be light," and there was light. 4 God saw that the light was good, and He separated the light from the darkness. 5 God called the light "day," and the darkness he called "night." And there was evening, and there was morning—the first day.


1 ในปฐมกาลพระเจ้าทรงเนรมิตสร้าง {หรือ เมื่อพระเจ้าทรงเริ่มเนรมิตสร้าง} ฟ้าและแผ่นดิน
2 แผ่นดินก็ว่างเปล่า ความมืดอยู่เหนือน้ำ และพระวิญญาณของพระเจ้าปกอยู่เหนือน้ำนั้น
3 พระเจ้าตรัสว่า "จงเกิดความสว่าง" ความสว่างก็เกิดขึ้น
4 พระเจ้าทรงเห็นว่าความสว่างนั้นดี และทรงแยกความสว่างออกจากความมืด
5 พระเจ้าทรงเรียกความสว่างนั้นว่า วัน และความมืดนั้นว่า คืน มีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันแรก


Vocabulary

formless : ไม่มีรูปร่างที่แน่นอน

hovering : ปกคลุม

Tuesday, September 12, 2006

Learn English from Bible : เรียนภาษาอังกฤษจากพระคริสตธรรมคัมภีร์

ผมว่าการเรียนภาษาอังกฤษอยู่ที่ความคุ้นเคยไม่ใช่ความเก่ง
ถ้าเราลองนึกดูให้ดี เวลาที่เราเกิดมาเราจะพูดได้ก่อน แล้วจึงหัดอ่าน หัดเขียน
การที่เราพูดเราก็จำและดูตัวอย่างจากพ่อแม่และคนใกล้ชิด
เป็นการซึมซับโดยที่เราไม่รู้ตัว เป็นกระบวนการเรียนที่เป็นธรรมชาติ

เฉกเช่นเดียวกัน การเรียนภาษาอังกฤษ เราจะสามารถทำได้ดี ด้าเราใช้การเรียนแบบเป็นธรรมชาติ
ใช้ความคุ้ยเคย หัดพูด หัดอ่าน และหัดเขียนบ่อยๆ
เราก็จะสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดีมากขึ้น

อย่าให้ความรู้สึกว่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องยาก ไม่ใช่ภาษาบรรพบุรุษของเรา
ทำให้เรากลัวหรือไม่ชอบภาษาอังกฤษ
เราต้องขจกความคิดที่ไม่ดีเกี่ยวกับภาษาอังกฤษออกไป
บอกตัวเองว่าเราต้องใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น แล้วเราจะใช้ภาษาอังกฤษได้เก่งขึ้นอย่างแน่นอน

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความคิดเกี่ยวกับภาษาอังกฤษคล้ายอย่าที่กล่าวมา
ผมอยากให้คุณพยายามขจัดความคิดเหล่านั้นออกไป
แล้วเรามาเริ่มต้นกันตั้งแต่วันนี้ วันที่คุณได้อ่านเวบนี้
คุณสามารถเข้ามาอ่านข้อความจากพระคัมภีร์ที่เป็นภาษาอังกฤษ(NIV) พร้อมกับมีคำแปลให้
ซึ่งจะช่วยให้คุณเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ทุกวัน

นอกจากนี้ผมอยากให้คุณพยายามให้ตัวคุณเองคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษมากขึ้น
วิธีการก็คือ ให้คุณเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ในชีวิตคุณให้เป็นภาษาอังกฤษให้มากที่สุด
เช่น ดูหนัง sound track ฟังเพลงภาษาอังกฤษ พยายามคิดว่าสิ่งที่คุณพูดถ้าเป็นภาษาอังกฤษจะต้องพูดว่าอย่างไร
ไม่ต้องกลัวว่าจะผิด นับประสาอะไรกับคนไทยอย่างเรา ฝรั่งเจ้าของภาษาเขายังพูดผิดเลย
และอยากให้เราเป็นกำลังใจให้กันและกัน เวลาที่ใครพูดภาษษอังกฤษผิด อย่าหัวเราะเยาะเขา
เพราะเขาก็กำลังพยายามอยู่ คุณเองก็คงต้องการกำลังใจเช่นกัน

ขอพระเจ้าทรงอวยพรทุกท่านให้ประสบความสำเร็จในการฝึกภาษาอังกฤษนะครับ